2. ฝึกเขียนระบุเกณฑ์คุณภาพหลักสูตรที่พึงประสงค์
รูปแบบการประเมินหลักสูตรของโพรวัส (Provus,
Discrepancy Evalution Model)
โพรวัส ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการประเมินหลักสูตรซึ่งเรียกว่า
“การประเมินผลความแตกต่างหรือการประเมินความไม่สอดคล้อง” (Discrepancy Evalution) ซึ่งจะประเมินหลักสูตรทั้งหมด 5 ส่วน
คือ 1. การออกแบบ
(Desingn) 2. ทรัพยากรหรือสิ่งที่เริ่มตั้งไว้เมื่อใช้หลักสูตร
(Installation) 3. กระบวนการ
( Process ) 4. ผลผลิตของหลักสูตร (Products ) 5. ค่าใช้จ่ายหรือผลตอบแทน
(Cost) ในแต่ละส่วนจะมีขั้นตอนการประเมินผลโดยจะดำเนินการเป็น
5 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่
1 ผู้ประเมินจะต้องกำหนดเกณฑ์มาตรฐาน (Standards – S) ของสิ่งที่ต้องการวัดก่อน
เช่น มาตรฐานด้านเนื้อหา เป็นต้น
ขั้นที่ 2
ผู้ประเมินต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานหรือการปฏิบัติจริงของสิ่งที่ต้องการวัด
(Performance – P)
ขั้นที่ 3 ผู้ประเมินนำข้อมูลที่รวบรวมได้ขั้นที่ 2
มาเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ในขั้นที่ 1 (Compare – C)
ขั้นที่ 4
ผู้ประเมินศึกษาความแตกต่าง
หรือความไม่สอดคล้องระหว่างผลการปฏิบัติจริงกับเกณฑ์มาตรฐาน (Discrepancy – D)
ขั้นที่ 5
ผู้ประเมินส่งผลการประเมินไปให้ผู้บริหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับหลักสูตรว่าจะเลิกการใช้หลักสูตรที่ประเมิน หรือปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติ หรือเกณฑ์มาตรฐานให้คุณภาพดีขึ้น ( Decision Making )
S =
Standard เป็นขั้นแรกของการประเมินหลักสูตร กล่าวคือ
ประเมินผลต้องตั้งสิ่งมาตรฐานที่ต้องการวัดไว้ก่อน
P =
Performance หลักจากดำเนินการขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว
ผู้ประเมินจะต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานหรือการปฏิบัติจริง ในสิ่งที่ต้องการวัดให้เพียงพอ
ข้อมูลที่รวบรวมความเป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมที่ชัดเจน
C =
Compare เมื่อตั้งมาตรฐานและรวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว ก็นำข้อมูลมาเปรียบเทียบเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้
D =
Discrepancy จากการเปรียบเทียบข้อมูลกับมาตรฐานที่กำหนดไว้
ผู้ประเมินพบว่ามีช่องว่างอะไรที่เกิดขึ้นกับผลที่คาดหวัง
D =
Decision Making ผู้ประเมินจะส่งผลผลประเมินไปให้ผู้ที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับหลักสูตรเพื่อตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น